Share

ซ่อมผิวคอนกรีต ทำไมต้องใช้ Repair Mortar เหนือกว่าคอนกรีตทั่วไปอย่างไร

Last updated: 29 Oct 2025
7 Views

ซ่อมผิวคอนกรีต ทำไมต้องใช้ Repair Mortar เหนือกว่าคอนกรีตทั่วไปอย่างไร

ในงานซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีต ไม่ว่าจะเป็นพื้น เสา คาน หรือผนัง หลายคนอาจคิดว่า ใช้คอนกรีตทั่วไปเทซ่อมก็เพียงพอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คอนกรีตทั่วไปไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการซ่อมผิวโดยเฉพาะ และอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การแตกร้าวซ้ำ การหลุดร่อน หรือการยึดเกาะไม่แน่นกับพื้นผิวเดิม

Repair Mortar (รีแพร์ มอร์ตาร์) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ปูนซ่อมผิวคอนกรีต จึงถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์การซ่อมแซมที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ด้วยส่วนผสมและคุณสมบัติที่แตกต่างจากปูนซีเมนต์ทั่วไป ทำให้สามารถคืนความแข็งแรงให้โครงสร้างได้อย่างยาวนานและปลอดภัย

Repair Mortar คืออะไร?

Repair Mortar คือ ปูนซีเมนต์ชนิดพิเศษ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ซ่อมแซมพื้นผิวคอนกรีตที่ชำรุด เช่น รอยแตกร้าว รอยร่อน บิ่น ผิวคอนกรีตหลุด หรือการสึกกร่อนจากการใช้งานระยะยาว โดยมักจะมีส่วนผสมของ โพลีเมอร์ (Polymer-modified cement) และสารเพิ่มการยึดเกาะ (Bonding agent) เพื่อให้สามารถยึดติดกับพื้นผิวเดิมได้แน่นหนา ไม่แตกร้าว และไม่หดตัวหลังการแห้งตัว

ต่างจากปูนซีเมนต์ทั่วไปที่เน้นการเทในปริมาณมาก Repair Mortar ถูกออกแบบมาให้ ซ่อมเฉพาะจุดได้ดีในความหนาบาง ให้กำลังอัดสูง และสามารถปาดขึ้นรูปได้เรียบเนียน

ทำไมงานซ่อมผิวคอนกรีตถึงไม่ควรใช้คอนกรีตทั่วไป

หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าคอนกรีตทั่วไปก็เป็นส่วนผสมของซีเมนต์อยู่แล้ว ทำไมจึงใช้แทนไม่ได้ คำตอบอยู่ที่ คุณสมบัติทางเคมีและกายภาพ ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

1. คอนกรีตทั่วไปมีอัตราการหดตัวสูง

คอนกรีตเมื่อแห้งตัวจะเกิดการ หดตัว ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดรอยแตกร้าวซ้ำบนพื้นผิวที่ซ่อม โดยเฉพาะเมื่อใช้เททับบนโครงสร้างเดิมที่แห้งแล้ว ทำให้การยึดเกาะไม่แน่น เกิดรอยร่อนในเวลาไม่นาน

2. การยึดเกาะกับผิวเดิมต่ำ

คอนกรีตทั่วไปไม่มีสารเพิ่มการยึดเกาะ ทำให้เมื่อซ่อมบนผิวคอนกรีตเดิมที่มีฝุ่นหรือผงซีเมนต์เก่า จะไม่สามารถเชื่อมกันได้แน่นหนา ผิวที่ซ่อมมักจะหลุดร่อนหรือแตกร่อนเมื่อโดนแรงกระแทก

3. ใช้เวลาบ่มนาน

คอนกรีตทั่วไปต้องใช้เวลาเซตตัวและบ่มหลายวันจึงจะแข็งแรงเต็มที่ ซึ่งไม่เหมาะกับงานซ่อมเฉพาะจุดที่ต้องการ ซ่อมและเปิดใช้งานได้รวดเร็ว

4. ความละเอียดของเนื้อปูนไม่เหมาะกับการเก็บผิว

เม็ดทรายในคอนกรีตมีขนาดใหญ่กว่าปูนซ่อม (Repair Mortar) ทำให้เก็บรายละเอียดผิวได้ไม่เรียบ และไม่สามารถปาดบาง ๆ ได้

แล้ว Repair Mortar ดีกว่าคอนกรีตทั่วไปอย่างไร?

1. ยึดเกาะแน่น ไม่หลุดร่อน
Repair Mortar มีสาร Polymer และ Bonding Agent ช่วยให้ยึดติดกับผิวคอนกรีตเดิมได้ดีเยี่ยม แม้ในบริเวณแนวดิ่งหรือแนวเหนือศีรษะ ก็สามารถยึดเกาะได้โดยไม่ไหลเยิ้ม

2. ไม่หดตัวหลังแห้ง (Non Shrink)
ด้วยเทคโนโลยีการควบคุมการขยายตัวในปูนซีเมนต์ ทำให้ปูนรีแพร์มีอัตราการหดตัวต่ำมาก หรือแทบไม่หดเลย ช่วยลดปัญหาการแตกร้าวหลังซ่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ให้กำลังอัดสูง
Repair Mortar ของ GELCHEMICAL สามารถรับกำลังอัดได้สูงกว่า 450 ksc. เทียบเท่าคอนกรีตโครงสร้างจริง เหมาะกับงานซ่อมที่ต้องการความแข็งแรง เช่น ฐานเสา คาน หรือพื้นรับน้ำหนัก

4. ปาดขึ้นรูปง่าย เนื้อแน่น เรียบเนียน
ด้วยขนาดเม็ดละเอียดของปูน ทำให้ปาดเก็บผิวได้สวยเรียบ เหมาะกับงานซ่อมที่ต้องโชว์ผิว เช่น ผนังกอนกรีตเปลือย พื้นโชว์ซีเมนต์ หรือขอบเสาที่ต้องการความคมชัด

5. เซตตัวเร็ว เปิดใช้งานได้ไว
บางรุ่นสามารถเริ่มเซตตัวได้ภายใน 30-60 นาที และเปิดใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมง จึงเหมาะกับงานซ่อมฉุกเฉิน หรืองานที่ต้องรีบคืนพื้นที่หน้างาน

ประเภทของ Repair Mortar ที่ใช้ในงานซ่อมคอนกรีต

การเลือกใช้ให้เหมาะกับลักษณะงานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันเล็กน้อย

ประเภท ลักษณะการใช้งาน ความหนาที่แนะนำ
1. Trowelable Type (แบบปาด) สำหรับงานซ่อมผิวแนวราบหรือแนวดิ่ง เช่น ผนัง เสา หรือขอบคาน 5-50 มม.
2. Flowable Type (แบบเทได้) สำหรับงานซ่อมพื้นหรือช่องว่างขนาดเล็ก เช่น พื้นแตกร้าวหรือหลุม 10-100 มม.
3. Spray Type (แบบพ่น) สำหรับงานซ่อมผนังหรือเพดานขนาดใหญ่ ใช้เครื่องพ่นมอร์ตาร์ 3-30 มม.
 

ตัวอย่างงานที่เหมาะกับการใช้ Repair Mortar

  • ซ่อมพื้นคอนกรีตแตกร้าว ร่อน หรือผิวขรุขระ
  • ซ่อมขอบเสา คาน หรือมุมบันไดที่บิ่น
  • เก็บผิวคอนกรีตก่อนทาสีหรือเคลือบผิว
  • ซ่อมแซมรอยต่อโครงสร้าง (Joint Repair)
  • ซ่อมพื้นโรงงาน พื้นที่รับแรงสั่นสะเทือน หรือบริเวณฐานเครื่องจักร

ขั้นตอนการใช้งาน Repair Mortar อย่างถูกวิธี

  1. เตรียมพื้นผิว
    - ทำความสะอาดผิวคอนกรีตเดิมให้ปราศจากฝุ่น น้ำมัน หรือเศษวัสดุหลวม
    - หากมีรอยร้าว ควรเซาะเปิดร่องก่อนเพื่อให้ปูนซ่อมยึดเกาะได้ดีขึ้น
  2. ผสมน้ำตามสัดส่วนที่แนะนำ
    - โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 13-15% ของน้ำหนักปูน
    - ใช้เครื่องผสมรอบต่ำ (Low-speed mixer) เพื่อให้ปูนละลายเข้ากันโดยไม่จับตัวเป็นก้อน
  3. ลงปูนซ่อม
    - ใช้เกรียงปาดหรือเทลงบริเวณที่ต้องการซ่อม
    - สำหรับแนวดิ่งหรือเหนือศีรษะ ควรใช้แบบเนื้อข้น (Trowel type) เพื่อป้องกันการไหล
  4. บ่มน้ำหลังซ่อม
    - บ่มน้ำอย่างน้อย 3 วัน เพื่อให้ปูนซ่อมคอนกรีตพัฒนาแรงอัดได้เต็มที่และไม่แตกร้าว

ทำไมต้องเลือกใช้ Repair Mortar จาก GELCHEMICAL

GEL Repair Mortar ผลิตด้วยเทคโนโลยี Polymer Modified Cement ที่ควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานงานซ่อมคอนกรีต เหมาะสําหรับงานซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีต เสา คาน พื้น ผนังพรีคาสท์ โพรงที่เกิดการเทคอนกรีต และงานปิดเพลท

จุดเด่นของ Repair Mortar จาก GELCHEMICAL

  • สามารถรับแรงอัดได้สูง มากกว่า 450 ksc.
  • ไม่หดตัว ไม่แตกร้าว
  • ยึดเกาะผิวคอนกรีตได้ดีเยี่ยม
  • เซตตัวเร็วแต่ยังคงแรงอัดสูง
  • ใช้งานง่าย เพียงผสมน้ำก็พร้อมใช้

เปรียบเทียบระหว่าง Repair Mortar และ คอนกรีตทั่วไป

รายการ Repair Mortar คอนกรีตทั่วไป
การยึดเกาะกับพื้นผิวเดิม สูงมาก (มีสาร Polymer) ต่ำ
การหดตัวหลังแห้ง ต่ำมาก / แทบไม่มี สูง มีโอกาสแตกร้าว
แรงอัดสูงสุด มากกว่า 450 ksc. 250 - 350 ksc.
การใช้งานในแนวดิ่ง / เพดาน ทำได้ดี ไม่ไหลเยิ้ม ทำไม่ได้
ความหนาที่ใช้งานได้ 5-50 มม. ต้องเทหนาเกิน 50 มม.
เวลาเซตตัว 30 นาที - 2 ชม. หลายชั่วโมงถึงวัน
ลักษณะงานเหมาะสม ซ่อมเฉพาะจุด เก็บผิวละเอียด เทโครงสร้างใหม่
 

งานซ่อมคอนกรีตที่ดี เริ่มจากวัสดุที่ถูกต้อง

การเลือกใช้ Repair Mortar (ปูนรีแพร์) ที่ออกแบบมาเพื่อการซ่อมโดยเฉพาะ ไม่เพียงช่วยให้งานซ่อมมีความแข็งแรงและสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วย ลดความเสียหายซ้ำซ้อน และ ยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างได้ยาวนานขึ้น

หากคุณกำลังมองหาปูนซ่อมคุณภาพสูงที่มั่นใจได้ในทุกสภาวะ GEL Repair Mortar คือคำตอบที่วิศวกรและผู้รับเหมามืออาชีพเลือกใช้ทั่วประเทศ

สนใจให้คำปรึกษาหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อทีมงาน GELCHEMICAL ได้ที่ Line ID @gelchemical


Related Content
GEL Non Shrink Grout
ในงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงและความเที่ยงตรงสูง เช่น งานฐานเครื่องจักร เสาเหล็ก หรือรอยต่อคอนกรีตสำเร็จรูป นอนชริ้งเกร้าท์ (Non Shrink Grout) ถือเป็นวัสดุสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะมีคุณสมบัติ ไม่หดตัวหลังการแห้งตัว ช่วยให้ช่องว่างในโครงสร้างถูกเติมเต็มแน่นหนา ป้องกันการแตกร้าวและการทรุดตัวในระยะยาว
9 Oct 2025
Non Shrink Grout สำคัญอย่างไร? ทำไมงานโครงสร้างจำเป็นต้องใช้
ในงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม หรือสะพาน ทุกโครงสร้างล้วนต้องการ ความแข็งแรงและความเที่ยงตรง เพื่อรองรับแรงกดและแรงสั่นสะเทือนในระยะยาว ซึ่งหนึ่งในวัสดุที่มีบทบาทสำคัญคือ Non Shrink Grout (นอนชริ้งเกร้าท์)
29 Oct 2025
ปูนนอนชริ้งเกร้าท์ หรือ ปูนเกร้าท์ ต่างจากปูนทั่วไปอย่างไร ใช้งานแบบไหน?
ในงานก่อสร้างหรืองานซ่อมแซมโครงสร้าง หลายคนอาจคุ้นเคยกับการใช้ ปูนซีเมนต์ทั่วไป สำหรับงานเทพื้น ก่ออิฐ หรือฉาบผนัง แต่เมื่อเจอสถานการณ์ที่ต้องการ คอนกรีตที่ไม่หดตัวและมีความแข็งแรงพิเศษ เช่น งานเสริมฐานเครื่องจักร งานเติมเต็มช่องว่างคอนกรีต งานซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีต หรือการยึดเหล็กเสริม ปูนทั่วไปอาจไม่ตอบโจทย์ นี่คือเหตุผลที่มีการพัฒนา ปูนเกร้าท์ หรือ นอนชริ้งเกร้าท์ (Non Shrink Grout) เข้ามาใช้งาน
10 Sept 2025
icon-messenger
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy