เลือกใช้ Non Shrink Grout ให้เหมาะกับงานโครงสร้างแต่ละแบบ
เลือกใช้ Non Shrink Grout ให้เหมาะกับงานโครงสร้างแต่ละแบบ
ในงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงและความเที่ยงตรงสูง เช่น งานฐานเครื่องจักร เสาเหล็ก หรือรอยต่อคอนกรีตสำเร็จรูป นอนชริ้งเกร้าท์ (Non Shrink Grout) ถือเป็นวัสดุสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะมีคุณสมบัติ ไม่หดตัวหลังการแห้งตัว ช่วยให้ช่องว่างในโครงสร้างถูกเติมเต็มแน่นหนา ป้องกันการแตกร้าวและการทรุดตัวในระยะยาว
แต่ในท้องตลาดมี ปูนเกร้าท์ (Grout) ให้เลือกหลายเกรด หลายรุ่น แล้วจะเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับประเภทงาน? วันนี้เราจะพามารู้จักกับวิธีการเลือก ปูนนอนชริ้ง (Non Shrink Grout) ตาม กำลังรับแรงอัด (Compressive Strength) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง โดยยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์จริงจาก GELCHEMICAL เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
Non Shrink Grout คืออะไร?
Non Shrink Grout หรือ ปูนเกร้าท์ชนิดไม่หดตัว เป็น ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป ที่ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติพิเศษ 3 ประการ ได้แก่
- ไม่หดตัวหลังเซตตัว (Non-Shrinkage) ช่วยป้องกันช่องว่างระหว่างพื้นผิว เช่น ระหว่างคานเหล็กกับฐานราก
- รับแรงอัดได้สูง (High Compressive Strength) เหมาะกับงานที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ฐานเครื่องจักรหรือเสาเหล็ก
- ไหลตัวดี (Flowable) เทได้ง่าย กระจายตัวเองในช่องแคบโดยไม่เกิดโพรงอากาศ
นอนชริ้งเกร้าท์ (Non Shrink Grout) จึงเป็นวัสดุที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับงานโครงสร้าง ทั้งในงานเทใหม่และงานซ่อมบำรุง
ทำไม กำลังรับแรงอัด ถึงสำคัญในการเลือกใช้ปูนเกร้าท์
กำลังรับแรงอัด (Compressive Strength) คือค่าที่บ่งบอกว่า ปูนสามารถรับน้ำหนักหรือแรงกดได้มากแค่ไหนก่อนจะแตกตัว โดยหน่วยที่ใช้วัดคือ ksc (กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร) หรือ MPa
- งานโครงสร้างทั่วไป เช่น งานเสา-คาน มักต้องการค่ากำลังอัดประมาณ 400-600 ksc.
- งานฐานเครื่องจักรหรือคานเหล็ก ต้องใช้ปูนเกร้าท์ที่มีกำลังอัดสูงกว่า 700 ksc.
- งานพิเศษที่รับแรงสั่นสะเทือนหนัก เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ควรเลือกเกรดสูงสุดระดับ 800-900 ksc.
ดังนั้น การเลือกปูนเกร้าท์ให้ตรงกับระดับแรงอัด จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานและความปลอดภัยของโครงสร้างโดยตรง
เปรียบเทียบ Non Shrink Grout แต่ละรุ่นของ GELCHEMICAL
เพื่อให้เลือกได้เหมาะกับงาน GELCHEMICAL มีผลิตภัณฑ์ ปูนนอนชริ้งเกร้าท์แบบซีเมนต์ (Cement-based Grout) ให้เลือก 3 รุ่นหลัก โดยแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและกำลังรับแรงอัดที่แตกต่างกัน
รุ่นผลิตภัณฑ์ | กำลังรับแรงอัด (ksc.) | ลักษณะการใช้งานที่แนะนำ | จุดเด่นหลัก |
---|---|---|---|
GEL Non Shrink Grout T-GL | 600 ksc. | งานทั่วไป เช่น เติมใต้ Base Plate, ซ่อมรอยต่อคอนกรีต, งานเทรอยต่อเสา-คาน | เทง่าย ราคาคุ้มค่า ไม่หดตัว |
GEL Non Shrink Grout T-GLH | 700 ksc. | งานโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ฐานเครื่องจักรขนาดกลาง, เสาเหล็ก, ฐานรากเสาไฟ | รับแรงอัดสูงกว่า มั่นใจได้ในความแข็งแรง |
Denka Pretascon Type 1 | 850 ksc. | งานอุตสาหกรรมหนัก เช่น ฐานเครื่องจักรขนาดใหญ่, โรงงาน, สะพาน, โรงไฟฟ้า | คุณภาพสูงสุดจากญี่ปุ่น รับแรงอัดสูงมาก เหมาะกับงาน Heavy Duty |
การเลือกใช้ Non Shrink Grout ให้เหมาะกับประเภทงาน
1. งานฐานเครื่องจักร (Machine Base)
พื้นฐานของเครื่องจักรต้องรับแรงสั่นสะเทือนและน้ำหนักสูง
แนะนำ: GEL Non Shrink Grout T-GLH (700 ksc.) สำหรับเครื่องจักรขนาดกลาง หรือ Denka Pretascon Type 1 (850 ksc.) สำหรับเครื่องจักรขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรม
2. งานฐานเสาเหล็ก (Steel Column Base)
จำเป็นต้องใช้ปูนเกร้าท์ที่ไหลตัวดี เติมเต็มทุกช่องว่างใต้ Plate ได้แน่น
แนะนำ: GEL Non Shrink Grout T-GL (600 ksc.) สำหรับงานทั่วไป หรือ GEL Non Shrink Grout T-GLH (700 ksc.) หากต้องการรับน้ำหนักมาก
3. งานซ่อมคอนกรีต (Concrete Repair)
เหมาะกับงานซ่อมรอยแตก รอยร้าว หรือพื้นทรุด
แนะนำ: GEL Non Shrink Grout T-GL (600 ksc.) เพราะเนื้อปูนละเอียด ปาดง่าย และให้ผิวเรียบเนียน หรือ GEL Non Shrink Grout T-GLH (700 ksc.) หากต้องการรับน้ำหนักมาก
4. งานรอยต่อโครงสร้างสำเร็จรูป (Precast Joint Grouting)
ต้องการความแน่นหนาและยึดเกาะสูง เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง
แนะนำ: GEL Non Shrink Grout T-GLH (700 ksc.) ให้กำลังอัดสูงและคงรูปได้ดี
5. งานอุตสาหกรรมหนัก (Heavy Duty Industrial)
เช่น โรงงานผลิตเหล็ก โรงไฟฟ้า หรือฐานเครื่องกลขนาดใหญ่
แนะนำ: Denka Pretascon Type 1 (850 ksc.) ด้วยกำลังอัดระดับสูงสุดและคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น
เทคนิคการใช้งานให้ได้คุณภาพสูงสุด
- เตรียมพื้นผิวให้สะอาด ขจัดคราบน้ำมัน เศษฝุ่น หรือปูนเก่าที่หลุดร่อน
- รดน้ำพื้นก่อนเท เพื่อป้องกันการดูดซึมน้ำจากเนื้อปูนใหม่
- ผสมตามอัตราส่วนที่แนะนำ โดยทั่วไปใช้น้ำประมาณ 15-20% ของน้ำหนักปูน
- ใช้เครื่องผสมแรงบิดต่ำ (Low Speed Mixer) เพื่อให้เนื้อปูนเนียนสม่ำเสมอ
- เทให้ต่อเนื่องไม่เกิน 15-20 นาทีหลังผสม เพราะปูนจะเริ่มเซตตัวเร็ว
- บ่มน้ำอย่างน้อยเป็นระยะเวลา 7 วัน เพื่อรักษาความชื้น ป้องกันการแตกร้าว และเพิ่มกำลังอัดสูงสุด
การเลือกใช้ Non Shrink Grout ให้เหมาะกับงานโครงสร้างแต่ละแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่เป็นเรื่องของ ความแข็งแรง ความปลอดภัย และความยั่งยืนของโครงสร้าง
- ถ้าเป็น งานทั่วไปหรือซ่อมพื้นคอนกรีตเล็กน้อย เลือกใช้ GEL Non Shrink Grout T-GL (600 ksc.)
- ถ้าเป็น งานที่ต้องรับแรงอัดมากขึ้น เช่น ฐานเสาเหล็กหรือเครื่องจักรขนาดกลาง ใช้ GEL Non Shrink Grout T-GLH (700 ksc.)
- ถ้าเป็น งานอุตสาหกรรมหนักที่ต้องการความทนทานสูงสุด ใช้ Denka Pretascon Type 1 (850 ksc.)
การเลือก นอนชริ้งเกร้าท์ (Non Shrink Grout) ที่ถูกประเภท จะช่วยให้งานเทและงานซ่อมโครงสร้างของคุณจบเร็ว แข็งแรง และปลอดภัยยิ่งขึ้นทุกโครงการ