ซีเมนต์พิเศษประสิทธิภาพสูงชนิดไม่หดตัว มีคุณสมบัติการไหลที่ดีและให้กําลังรับแรงอัดสูงทั้งช่วงต้นและปลาย
คุณสมบัติและจุดเด่น
- งานซ่อมแซมคอนกรีตทั่วไป
- งานซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีต เช่น เสา คาน และผิวหน้าถนน เป็นต้น
- งานทําฐานรองรับเสา โครงสร้างสะพาน หรือรางเครน
- งานเทเพื่อเติมเต็มช่องว่าง เช่น งานเทคอนกรีตบริเวณฐานราก หรืองานคอนกรีตที่เทไม่เต็มแบบหล่อ
- งานติดตั้งชิ้นส่วนคอนกรีตสําเร็จรูป เช่น การเกร้าท์ระหว่าง รอยต่อของผนัง เป็นต้น
- งานทางวิศวกรรมต่างๆที่ต้องการค่ากําลังในการรับแรงมากกว่า คอนกรีตทั่วไป
- งานที่ต้องการค่ากําลังรับแรงอัดในช่วงต้นสูง
- งานหล่อเพื่อทําฐานรองรับเครื่องจักรตั้งแต่เครื่องจักรขนาดเล็กไปจนถึงเครื่องจักรหนักหรือมีการสั่นสะเทือน เช่น เครื่องปั่นไฟ เครื่องกังหันก๊าซ และอื่นๆ
การใช้งาน
- ไม่เกิดการหดตัว
- ไม่เกิดการเยิ้มน้ำ
- ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ไม่ทําให้เกิดสนิม และปราศจากคลอไรด์
- มีความสามารถในการทํางานที่ดี ไหลเข้าแบบหรือช่องว่างได้ง่าย
- ไม่มีฟองอากาศ ไม่เกิดโพรงในการเกร้าท์
- ค่ากําลังรับแรงอัดสูงพิเศษ
- ให้ค่าการรับแรงอัดได้สูงมากในช่วงต้นและปลาย สามารถรับแรงอัดได้
430 ksc (Cu) ที่ 1 วัน และ 660 ksc (Cu) ที่ 28 วัน
กระบวนการทํางาน
- หลังจากที่วางและปรับแบริ่งแล้ว จะต้องทําความสะอาดฝุ่นบนพื้นผิวคอนกรีตรวมถึงต้องทําความสะอาดนํ้าที่อยู่ในแท่นเครื่องจักร
- ก่อนทําการเทเกร้าท์ ผิวหน้าของคอนกรีตต้องเปียกชื้นแต่ไม่มีนํ้าขังบนผิวหน้าคอนกรีต
- หลังจากทําความสะอาดพื้นผิวคอนกรีตแล้ว จึงทําการติดตั้งแบบหล่อสําหรับงานเกร้าท์โดยที่รอยต่อทั้งหมดระหว่างคอนกรีตและแบบหล่อต้องถูกปิดเพื่อป้องกันการรั่วขณะทําการเกร้าท์
- หากปริมาณการผสมใช้งานมากควรใช้เครื่องผสมปูนในการผสมและใช้เวลาในการผสมประมาณ 5-10 นาที แต่ถ้าปริมาณการผสมใช้งานน้อยสามารถใช้เครื่องผสมสว่านไฟฟ้า (ความเร็วรอบตํ่า) ได้ โดยใช้ถังผสมทําจากโลหะและมีขนาดประมาณ 320x350 มม. ระยะเวลาในการผสมทั้งหมดประมาณ 3-5 นาที
- หลักจากเริ่มทําการเกร้าท์แล้วจะต้องเทอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงักโดยใช้เวลาในการเกร้าท์ให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และส่วนผสมจะใช้ให้หมดภายใน 30 นาที
- หลังจากเริ่มเข้าระยะเวลาการก่อตัวเริ่มต้นของวัสดุให้คลุมถุงฟางเปียกหรือผ้าเปียกเพื่อทําการบ่ม
